07 มิถุนายน 2554

Review Samsung Galaxy Mini S5570

สำหรับ Samsung Galaxy Mini S5570 นั้น เปิดตัวในประเทศไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล แอนดรอยด์ ราคาประหยัด เพราะเปิดตัวเพียงแค่ 5,990 บาทเท่านั้น โดย Samsung Galaxy Mini S5570 นั้น มีดีไซน์ที่คล้ายๆ กับ Samsung Candy อีกทั้งรูปร่างที่จับถนัดมือ และแถบสีสะดุดตาด้านข้างตัวเครื่อง จึงเหมาะกับวัยรุ่น หรือผู้ที่ต้องการหา สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ราคาประหยัด มาไว้ครอบครอง

คุณสมบัติเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Mini S5570

ระบบสัญญาณ: GSM Quad Band 850/900/1800/1900 MHz, HSDPA Dual Band 7.2Mbps 900/2100 MHz
ขนาด: 110.4 x 60.8 x 12.1 มิลลิเมตร
น้ำหนัก: 105 กรัม
ชนิดจอแสดงผล: TFT LCD touchscreen ความละเอียด 240x320 พิกเซล (QVGA กว้าง 3.14 นิ้ว)
หน่วยประมวลผล: ARMv6 600MHz Processor พร้อม RAM ขนาด 384MB
ระบบปฏิบัติการ: แอนดรอยด์ 2.2 Froyo
หน่วยความจำ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 160MB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 16 GB
กล้องดิจิตอล: ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แบบ Fixed Focus
การเชื่อมต่อ: Wi-Fi b/g/n, Bluetooth 2.1 (A2DP), standard microUSB port, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และระบบ GPS แบบ A-GPS

การออกแบบและโครงสร้างภายนอกตัวเครื่อง

ปุ่ม Home ขนาดใหญ่ สัมผัสได้ง่ายขึ้น

Samsung Galaxy Mini S5570 ตัว เครื่องทำมาจากพลาสติกเนื้อดี ก่อนจะประดับประดารอบๆ ตัวเครื่องด้วยสีเขียวสดใส สะดุดตา นอกจากนี้ ปุ่ม Home ยังถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ และสัมผัสได้ง่ายขึ้น

ด้านบนของหน้าจอ ประกอบไปด้วย ลำโพงสนทนา ขนาดใหญ่ และ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านล่างของหน้าจอ ประกอบไปด้วย ปุ่มฟังก์ชั่นหลักๆ 3 ปุ่ม โดยเป็นปุ่มแบบ Hardware ที่ทำงานด้วยการกด ได้แก่ (จากซ้ายไปขวา) ปุ่ม เมนู, ปุ่ม Home และปุ่ม Back

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับหูฟังขนาด 3.5 มม. และ microUSB port

ด้านล่างของตัวเครื่อง เป็น ไมโครโฟน สำหรับไว้สนทนา

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มสำหรับปรับเพิ่ม-ลด เสียง และ รูสำหรับใส่สายคล้องโทรศัพท์

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง / ล็อคเครื่อง และช่องสำหรับใส่ microSD card ที่สะดวกต่อการใช้งานได้เลยทันที โดยไม่จำเป็นต้องแกะฝาหลังเพื่อถอด microSD card เหมือนกับรุ่นอื่นๆ

ด้านหลังของตัวเครื่อง เป็นกล้องดิจิตอล ความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล แบบ Fixed Focus

เมื่อแกะฝาหลังออก จะพบกับ แบตเตอรี่ขนาด 1200mAh และช่องสำหรับใส่ซิม ซึ่งจากการทดสอบนั้น พบว่า สามารถเปิดเครื่องสแตนบายด์ได้นานถึง 3 วันเลยทีเดียว

User interface

User Interface แบบ TouchWiz เวอร์ชั่น 3.0

ถึงแม้ Samsung Galaxy Mini S5570 จะเป็น สมาร์ทโฟน ระดับกลาง และเป็นน้องเล็กในตระกูล Galaxy แต่สำหรับระบบปฏิบัติการแล้ว เรียกได้ว่า ไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียว โดย Samsung Galaxy Mini S5570 นั้น ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 Froyo และ User Interface แบบ TouchWiz เวอร์ชั่น 3.0 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟสรุ่นเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ Samsung แต่น่าเสียดายที่ Samsung Galaxy Mini S5570 นั้น ไม่รองรับ Live Wallpapers

สำหรับการเพิ่ม Widgets ในหน้า Homescreen นั้น สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม เมนู นอกจากนี้ ยังสามารถลบ Widgets ที่ไม่ต้องการออกได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมี Shortcut ในหมวดของเมนูการตั้งค่า (Settings), การแจ้งเตือนต่างๆ (Notification area) และ Google search ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ส่วนเมนูด้านล่างนั้น ประกอบไปด้วย ปุ่มสำหรับการโทรออก, เมนูแอพพลิเคชั่นต่างๆ และ รายชื่อผู้ติดต่อ สำหรับ การแจ้งเตือนต่างๆ (Notification area) สามารถดูได้ เพียงแค่ลากจากบนลงล่าง เช่นเดียวกับ แอนดรอยด์โฟนรุ่นอื่นๆ

เนื่องจากหน้าจอของ Samsung Galaxy Mini S5570 มีความละเอียดไม่สูงมาก จึงทำให้ไอคอนต่างๆ ไม่ค่อยมีสีสันเท่า สมาร์ทโฟน รุ่นอื่นๆ โดย ไอคอนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั้น สามารถแยกได้เป็น 3 สีคือ สี เทา จะเป็น แอพพลิเคชั่นของ Google, สีส้มอ่อน จะเป็น แอพพลิเคชั่นที่มีมาให้อยู่แล้วในโทรศัพท์ และสีส้มเข้ม จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดมา นอกจากนี้ ยังสามารถจัดหมวดหมู่ของแอพพลิเคชั่นต่างๆ นี้ ได้อีกด้วย

การกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเป็นการแสดงแอพพลิเคชั่นที่เพิ่งเปิดไปเมื่อเร็วๆ นี้ และยังมี Shortcut ไปยัง Task Manager ได้อีกด้วย โดยฟีเจอร์แบบนี้ ถึอเป็นฟีเจอร์ทั่วๆ ไปของสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

Gallery

ในส่วนของ Gallery นั้น เหมือนกับอุปกรณ์อื่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรูปภาพถูกเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ อีกทั้งยังสามารถเรียงรูปภาพตามวันที่ได้ นอกจากนี้ มุมด้านขวาของหน้าจอนั้น จะมีปุ่มที่สามารถเปลี่ยนการแสดงรูปภาพ ให้เป็นแบบ Grid view หรือ Timeline view ได้ แล้วแต่ผู้ใช้จะเลือก อีกทั้ง ยังสามารถแชร์รูปภาพผ่านทาง Social Network ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter ได้

Music Player

อินเทอร์เฟสของฟังก์ชั่น Music Player นั้น ถูกออกแบบได้อย่างเรียบร้อย โดยสามารถเรียงลำดับเพลงจาก ศิลปิน, อัลบั้ม หรือ Playlists ได้ อีกทั้ง ยังแสดงเพลงล่าสุดที่เพิ่งถูกเปิดฟังไปได้อีกด้วย

กล้องดิจิตอล ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล

สำหรับกล้องดิจิตอล ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้น สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดได้ถึง 2048x1536 พิกเซล น่าเสียดายที่รุ่นนี้ ไม่มีแฟลชมาให้ ในส่วนของการบันทึกภาพวิดีโอนั้น จะเป็นแบบ QVGA ความละเอียด 320x240 Pixels (15 fps)

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้

Browser และการเชื่อมต่อ

เนื่องจาก Samsung Galaxy Mini S5570 มีระบบ Multitouch จึงสามารถใช้ฟังก์ชั่น Pinch-to-Zoom ได้ นอกจากนี้ บราวเซอร์ยังรองรับระบบ Text Reflow หรือการพลิกของตัวอักษรเมื่อหมุนโทรศัพท์ได้ แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่รองรับ Adobe Flash plugin

บทสรุป

ถึงแม้ Samsung Galaxy Mini S5570 จะเป็น สมาร์ทโฟน ระดับกลาง แต่ก็สามารถใช้งานในด้านต่างๆ ได้ไม่แพ้ สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ นอกจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 Froyo แล้ว การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 3G และ Wi-Fi b/g/n เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ขาดไม่ได้สำหรับ สมาร์ทโฟน ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือ ราคาเพียง 5,990 บาทเท่านั้นเองครับ!

(ตอนนี้ที่ J-Mart เหลือแค่ 4,900 บาทครับ)

ที่มา http://www.gsmarena.com/samsung_galaxy_mini_s5570-review-560.php


2 ความคิดเห็น:

sa^^^ กล่าวว่า...

การตั้งค่า EQ เรียกไงครับ พอดีเพิ่งถอยมาไม่กี่วันอ่ะครับ
ขอบคุณครับ รบกวนน่ะครับ khru.sam@gmail.com ครับผม

thabot กล่าวว่า...

จะต้องเข้าไปเปิดเพลงก่อน แล้วกดปุ่มตั้งค่า(ปุ่มที่กด ซ้ายมือ ของมือถือ) แล้วเลือก อีควอไลเซอร์ แล้วก็เลือกได้เลยครับ แต่ของ Mini ปรับได้ตามที่ระบบมีรายการให้ ไม่สามารถปรับแต่งได้เองนะ นอกจากจะลง App เล่นเพลงที่ปรับแต่งเองได้