29 กันยายน 2552

วิธีการถ่ายรูปแอ๊บแบ๊วมืออาชีพ

ที่มาของการถ่ายรูปแอ๊บแบ๊ว
การถ่ายรูปแอ๊บแบ๊วเป็นส่วนผสมของการถ่ายรูปบุคคล (หรือ Portrait) กับภาพ Close-up โดยไม่ทราบที่มาแน่ชัด
แต่หลักการของการถ่ายรูป แอ๊บแบ๊วนั้น จัดได้ว่าถ่ายง่ายมาก แต่บางทีก็ติดที่ข้อจำกัดของตัวแบบเอง
หรือขีดความสามารถทางด้านการสร้างสรรค์มุมกล้อง และมันสมองคนถ่าย ซึ่งก็มีทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อกันว่า
ท่าทางแอ๊บแบ๊วนั้นมาจากพฤติกรรมของสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำครับ ซึ่งผมจะอธิบายไว้ในช่วงถัดไปว่ามันมีที่มายังไงอีกที
แล้วผลก็คือเมื่อนำมารวม ๆ กันแล้วก็จะได้ท่าที่เรียกได้ว่า “แอ๊บแบ๊ว” ออกมากลายเป็นมุมกล้องที่ดูน่ารัก น่าหยิกที่สุด
เท่าที่สมองมนุษยชาติ(บางคน)จะคิดได้


อุปกรณ์ก่อนแอ๊บแบ๊ว
กล้องถ่ายภาพ ซึ่งก็ควรจะเป็นกล้องโทรศัพท์มือถือ หรือกล้อง Compact เท่านั้น
เพราะการใช้กล้องระดับ Digital SLR นั้น มีแต่จะก่อให้เกิดอุปสรรคในการถ่ายรูป
ถ้ากล้องไม่ตกใส่กบาลจนหัวแตกเลือดซิบ แขนที่ถือกล้องอยู่ก็อาจมีกล้ามขึ้นได้
ที่สำคัญไม่ได้ไปถ่ายภาพสารคดีหมีควาย ไม่ต้องไปใช้กล้องเทพระดับพระเจ้าก็ได้




หลักการแห่งการถ่ายรูปแอ๊บแบ๊ว
การถ่ายภาพแอ๊บแบ๊วนั้นไม่ยาก แต่ถ่ายอย่างไรให้ดูน่าหยิกอันนี้สิที่ยากยิ่งกว่า
เนื่องจากบางคนหน้าตาชวนให้แสดงออกพฤติกรรมที่รุนแรงยิ่งกว่าหยิกหรือจับ หลักการดังกล่าวจะช่วยให้ท่าน
แอ๊บแบ๊วได้ง่ายดายแม้หน้าตาท่านจะ Abnormal โดยรูปแบบการถ่ายภาพแอ๊บแบ๊วนั้นมีหลักการง่าย ๆ (แต่สำคัญ)ในการถ่ายดังนี้

1.) มุมแอ๊บแบ๊ว
ซึ่งมุมกล้องแบบนี้เราเรียกว่าอีกอย่างว่ามุมกล้องแอ๊บแบ๊ว หรือ Abbeaw Shot คือคนจะแอ๊บแบ๊วได้ต้องใช้มุมกล้อง
ในพิกัดนี้เท่านั้น เนื่องจากผมยังไม่เคยเห็นคน แอ๊บแบ๊วคนไหนจะถ่ายแบบสะพานโค้ง หรือแบบลอดขาถ่าย
เราจึงกะระยะได้เท่านี้ ที่สำคัญมุมกล้องนี้ถ่ายเองได้ เพราะสามารถใช้มือเดียวในการกดชัตเตอร์ได้สบาย ๆ
โดยมุมที่นิยมมากที่สุดคือมุมสูง (ประมาณ 30o-50o) เพราะจะทำให้หน้าตาดูแบ๊วได้ใจ ที่มุมกล้องในระดับนี้ได้รับความนิยม
คาดว่าน่าจะมาจากปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าโดดเด่นได้รูปเป็นที่สุด


มุมกล้องที่ถูกหลักมาตรฐานแอ๊บแบ๊วสากล


2.) การแต่งหน้าแอ๊บแบ๊ว
ถ้าท่านรู้ตัวว่าหน้าตาท่านไม่ดี เหมือนผีตายทั้งกลมชุบแป้งทอด ก็ขอให้ท่านแต่งหน้าด้วย
การแต่งหน้าแบบแอ๊บแบ๊วจะไม่ยากมาก ก็คือแต่งหน้าธรรมดา ๆ ไม่ต้องถึงขั้นลิเกนั่นแหละ คือไม่ต้องรองพื้นมากเหมือนโรยปูนขาวในงานกีฬาสี
เอาบาง ๆ ก็พอ ถ้าพ่อไม่ได้ทำแป้งขายที่ต้องขับเน้นก็คือ รอบดวงตา เพราะจะต้องทำตาโต เหมือนกับที่บ้านถูกหวยแจ๊กพ็อต 38 ล้าน
แก้ม…อันนี้สำคัญ ทางที่ดีแก้มควรจะมีสีแดงระเรื่อ เป็นแก้มก้นโดนเตะด้วยรองเท้า Combat ริมฝีปาก อันนี้ก็ใช่
ให้ทาลิปมันไว้ด้วย อย่าให้คล้ำซีด ถ้าไม่มีลิปให้ต่อยปากเอาูรับรองแดงได้ใจ


3.) การทำหน้าแอ๊บแบ๊ว
สำหรับการทำหน้าให้ถูกสนธิสัญญาแอ๊บแบ๊วสากลนั้น หลักใหญ่ใจความไม่ยากมากนักหรอก
คือ การทำหน้ามันไม่ยากนะครับ มันก็จะประมาณเอาสัตว์น้ำหลาย ๆ ชนิดมาผสมข้ามพันธุ์กันดังนี้




ดวงตา : จะคล้าย ๆ ปลาตีน ใครเคยเห็นปลาตีนคงรู้ดี เพราะตามันโตใสแบ๊วมาแต่ไกลเลย
แก้ม : เหมือนปลาทอง แต่เป็นปลาทองตะกระที่อมซากุระไว้ในกระพุ้งแก้มแบบเต็มความจุนะ
ปาก : ปลาซัคเกอร์ (ปลาเทศบาล) คือทำปากให้ประมาณว่าจะเล็มตะไคร่ที่หน้าดินใต้น้ำได้สบาย ๆ
รวม ๆ แล้ว = จาจาบิงส์ จาก Star Wars: Episode I – The Phantom Menace…


4.) การจัดท่าทาง
บางคนการแสดงออกทางสีหน้ายังไม่แบ๊วพอ จึงต้องใช้ท่าทางเข้าช่วยเพื่อเสริมพลังแอ๊บแบ๊ว
โดยการออกไม้ออกมือจะช่วยท่านได้ การเอานิ้วจิ้มแก้ม หรือทำตัววี (Victory) เป็นท่าสิ้นคิด
ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่หนีกันไปไหน ท่าก็จะสิ้นคิดคล้าย ๆ กัน บ่งบอกถึงระดับสติปัญญาคนทำท่าว่าลอก ๆ ตามกันมา
จนกลายเป็นรูปแบบพื้นฐาน ใครคิดท่าอื่นจะผิดผี หาใช่วิถีแห่งแอ๊บแบ๊วไม่


5.) การตกแต่งภาพ
จากผลสำรวจบอกว่าร้อยละ 35% ขึ้นไปของผู้แอ๊บแบ๊ว จะต้องเอาภาพผ่านโปรแกรมตัดต่อรูป
เนื่องจากการถ่ายภาพแอ๊บแบ๊วส่วนใหญ่นั้น จะเป็นการถ่ายแบบ Close Up คือถ่ายระยะประชิด
ดังนั้นสิวเสิว ตีนกงตีนกา ขอบตาคล้ำมันจะออกมาหมด แถมบางทีจะชัดยิ่งขึ้นด้วยแสง Flash
จึงต้องนำเข้าสู่ Photoshop ในกระบวนการที่เรียกว่าลวงโลก…เอ้ย…การปรับลดจุดบกพร่อง…




คนที่ตัดต่อแต่งเติมได้ขนาดนี้ ไปเปิดคอร์สสอน Photoshop หาตังค์เลยดีกว่า…
ข้อเสียคือ…ใครเข้าสู่วิธีการนี้แล้ว “มักหยุดไม่ได้” เพราะมันส์มือมาก แต่งภาพกันสนุกสนาน มีสิวลบสิว
มีตีนกาก็ทำหน้าเด้ง อ้วนไปก็บีบภาพซะ หน้าดำไปก็ทำให้สว่าง ซึ่งพอทำไปทำมาแล้ว
บางทีออกมาแล้วไม่ใช่คนเดิม หรืออาจถึงขั้น “ไม่ใช่คน” คือใสมาก เหมือนตุ๊กตา ใสจนควายดูก็รู้ว่าแต่งภาพ
ดังนั้นเมื่อท่านเข้าสู่กระบวนการนี้แล้ว จึงควรกระทำอย่างมีจรรยาบรรณ พอเพียง และจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมด้วยครับ


ที่มา : http://phuphu.exteen.com/20080331/entry

table-เปลี่ยนสี

.table1{


background:#ECF9FF;


border-collapse:collapse;


border:1px solid #0066CC;


}


.table1 tr{


border:1px solid #0066CC;


}


.table1 tr:hover{



background:#A6E2FF;


}


.table1 td,.table1 th{


border:1px solid #0066CC;


}


.table1 th{


background:#B9E9FF;


}


</style>

คุณคือต้นไม้ชนิดใด

สำหรับผู้ที่เกิดในช่วงระหว่างวันต่างๆ ดังนี้
23 Dec - 1 Jan ........................ APPLE TREE
2 - 11 Jan ..............................FIR TREE
12 - 24 Jan ............................ ELM TREE
25 Jan - 3 Feb ........................ CYPRESS TREE
4 - 8 Feb ........................ .......POPLAR TREE
9 - 18 Feb ..............................CEDAR TREE
19 - 28 Feb ........................ ....PINE TREE
1 - 10 Mar ..............................WEEPING WILLOW TREE
11 - 20 Mar ............................ LIME TREE
21 Mar ..................................OAK TREE
22 - 31 Mar ............................ HAZELNUT TREE
1 - 10 Apr .............................. ROWAN TREE
11 - 20 Apr .............................MAPLE TREE
21 - 30 Apr .............................WALNUT TREE
1 - 14 May ..............................POPLAR TREE
15 - 24 May ............................CHESTNUT TREE
25 May - 3 Jun .........................ASH TREE
4 - 13 Jun ..............................HORNBEAM TREE
14 - 23 Jun ............................ FIG TREE
24 Jun ..................................BIRCH TREE
25 Jun - 4 Jul ..........................APPLE TREE
5 - 14 Jul ...............................FIR TREE
15 - 25 Jul .............................ELM TREE
26 Jul - 4 Aug ........................ CYPRESS TREE
5 - 13 Aug .............................POPLAR TREE
14 - 13 Aug ...........................CEDAR TREE
24 Aug - 2 Sep ........................PINE TREE
3 - 12 Sep .............................WEEPING WILLOW TREE
13 - 22 Sep ...........................LIME TREE
23 Sep ................................OLIVE TREE
24 Sep - 3 Oct .......................HAZELNUT TREE
4 - 13 Oct ............................ROWAN TREE
14 - 23 Oct ..........................MAPLE ! TREE
24 Oct - 11 Nov ....................WALNUT TREE
12 - 21 Nov .........................CHESTNUT TREE
22 Nov - 1 Dec .....................ASH TREE
2 - 11 Dec ...........................HORNBEAM TREE
12 - 21 Dec ........................ FIG TREE
22 Dec ........................ .....BEECH TREE

เฉลย

APPLE TREE
ก็ เหมือนๆ กับต้นแอปเปิลนั่นแหละ สวยงาม เต็มไปด้วยเสน่ห์ ดึงดูด เฟิร์ทสุดๆ ชอบผจญภัย ค่อนข้างอ่อนไหว เลยตกหลุมรักอยู่บ่อยๆ ชอบรักและให้คนอื่นรัก ถ้าเป็นคนรักก็จะเป็นประเภทอบอุ่น มีเมตตา มีความสามารถพิเศษ และเต็มไปด้วยจินตนาการ

FIR TREE - The Mysterious
เป็น คนที่มีรสนิยมแบบไม่ธรรมดา รักศักดิ์ศรี ชอบฝันกลางอากาศ ชอบสิ่งสวยงาม ขี้หงุดหงิดและดื้อรั้นอีกต่างหาก ออกจะเป็นคนเชื่อในตัวเองมาก จะใส่ใจกับคนที่ใกล้ตัวมากเท่านั้น ถ้าเป็นคนรักก็จะเป็นประเภทไม่เคยพอ มีคนรักและศัตรูเยอะพอกัน

ELM TREE - The Noble-Mindedness
เป็น คนที่มีรูปร่างสวยงาม รสนิยมการแต่งกายดีเยี่ยม ไม่ค่อยจะให้อภัยใครซักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนที่ร่าเริง สนุกสนาน ชอบเป็นผู้นำ ไม่ชอบตาม ถ้าเป็นคู่รัก จะเป็นคู่รักที่ซื่อสัตย์ เป็นคนที่มีความคิดทัศนคติที่กว้างไกล สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้ เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน และอยู่ในโลกของความจริง

CYPRESS TREE - The Faithfulness
เป็น คนที่มีความแข็งแกร่ง ปรับตัวเก่ง รับความเป็นจริงของโลกได้ มองโลกในแง่ดี และต้องการเงินที่จะพาตัวเองไปสู่ความรู้ ไม่ชอบความโดดเดี่ยวอ้างว้าง เป็นคู่รักที่มีความต้องการโน่นต้องก ารนี่อยู่ตลอดเวลาไม่เคยพอ แต่ก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ไว้ใจได้

POPLAR TREE - The Uncertainty
ดู เป็นคนที่ชอบการตกแต่ง ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง จะมีแรงกำลังใจก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องสร้างให้มีจริงๆ เป็นคนที่ต้องการความตั้งใจและตั้งมั่นเป็นอย่างมาก ชอบอยู่ในสิ่งแวด ล้อมที่สวยงาม ช่างเลือก เลยมักจะโดดเดี่ยว มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะ ออกไปในทางปรัชญา เป็นคนที่ไว้ใจได้และเป็นคู่รักที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจัง ในเรื่องการใช้ชีวิตคู่

CEDAR TREE - The Confidence
จะ เป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ค่อยสวย แต่รู้วิธีปรับตัว ชอบความหรูหรา สุขภาพพลานามัยดี (ข้อทดแทนที่คุ้มค่ากับความไม่สวย) ไม่ค่อยจะมีอาการอาย กระมิดกระเมี้ยน มั่นใจในตัวเอง มุ่งมั่น แต่กลับไม่ค่อยอดทน มีความสามารถพิเศษเยอะ รอคอยรักแท้ และเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรได้รวดเร็ว

PINE TREE - The Particularity
เป็นคนที่ยอมอะไรได้ง่ายๆ แต่ก็รู้จักวิธีที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น เป็นคนที่มีความกระตือรือร้น
ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับใครได้ง่ายๆ แต่กลับตกหลุมรักง่ายและเลิกง่ายด้วย (แปลกนะ ?)

WEEPING WILLOW TREE - The Melancholy
เป็น คนที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความเศร้า ดึงดูดเพศตรงข้าม มีจิตใจเมตตา ชอบทุกสิ่งที่สวยงามและมีรสนิยม ชอบการเดินทาง ช่างฝัน ซื่อสัตย์ ดูเหมือนจะโดนครอบได้ง่าย แต่กลับยากที่จะมีชีวิตร่วมกับคนอื่น เป็นคนที่มีความตั้งมั่น มักจะเจ็บปวดทรมานเพราะความรัก แต่บางครั้งก็มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ได้ถ้าเนื้อคู่มีลักษณะความเป็นผู้นำ

LIME TREE - The Doubt
เป็น คนที่ยอมรับความเป็นไปในชีวิต ไม่ค่อยชอบการต่อสู้แข่งขัน ไม่ชอบการเป็นลูกจ้าง ออกจะเป็นคนที่ขี้เกียจ บอบบาง แต่เสียสละเพื่อเพื่อนได้ มีพรสวรรค์และความสามารถเยอะแต่ไม่ดึงออกมาใช้ ชอบบ่นเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ขี้อิจฉา แต่ก็จงรักภักดี

HAZELNUT TREE - The Extraordinary
เป็น คนที่มีเสน่ห์ เข้าอกเข้าใจคนอื่น รู้วิธีการที่จะสร้างความประทับใจ กระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคม เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น แต่ขี้หงุดหงิด เป็นคนรักที่ซื่อสัตย์ มั่นคงและเที่ยงตรงในการตัดสิน

ROWAN TREE - The Sensitivity
เป็น คนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ร่าเริง มีพรสวรรค์ ไม่เป็นคนที่หลงตัวเอง แต่ชอบเรียกร้องความสนใจ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เป็นคนที่ต้องพึ่งพาคนอื่น แต่ขณะเดียวกันก็อยากเป็นอิสระ มีรสนิยม มีความสามารถทางศิลปะ เป็นเพื่อนที่ดี แต่มักไม่ให้อภัยใครง่ายๆ

MAPLE TREE - Independence of mind
เป็น คนที่ไม่ธรรมดาเลย เต็มไปด้วยจินตนาการ ขี้อาย เก็บตัว แต่ทะเยอทะยาน หยิ่ง ชอบมีประสบการณ์แปลกใหม่ แต่บางครั้งเป็นที่ประหม่า ซับซ้อน มีความทรงจำดีเรียนรู้อะไรได้ง่าย มีชีวิตรักที่ซับซ้อนและชอบสร้างความประทับใจ

WALNUT TREE - The Passion
เป็น คนที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความตรงกันข้าม เป็นคนที่หลงตัวเอง ก้าวร้าว ไม่เห็นแก่ตัว มีการตอบโต้ที่คาดไม่ถึง มีความทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุด โอนอ่อนบ้างในบางครั้ง ขี้อิจฉา ไม่ค่อยอะลุ้มอล่วยอะไรง่าย เป็นจอมวางแผน อัจฉริยะ

CHESTNUT TREE - The Honesty
เป็น คนที่สวยแปลกๆ (สวยแบบไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร) เป็นคนที่ไม่คิดจะสร้างจุดสนใจให้กับใคร มีความยุติธรรม เกิดมาเป็นนักการทูต เจรจาพาทีเก่าง แต่เป็นคนขี้โมโหและอ่อนไหว ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเอง หาคู่แท้ยากมาก

ASH TREE - The Ambition
เป็น คนที่มีเสน่ห์ดึงดูด มีชีวิตชีวา ทำอะไรตามอารมณ์ ไม่ค่อยสนใจกับคำวิจารณ์ ทะเยอทะยาน ฉลาด เต็มไปด้วยความสามารถ เชื่อใจได้ เป็นคนรักที่ค่อนข้างระมัดระวัง ใช้สมองมากกว่าหัวใจในการจัดการกับความรัก แต่ก็ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับการใช้ชีวิตคู่

HORNBEAM TREE - The good taste
เก๋ ไก๋ มีเสน่ห์ มีรสนิยม ชอบความสะดวกสบายในชีวิต มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต ขณะเดียวกันอารมณ์ก็ขึ้นๆ ลงๆ ชอบฝันถึงการมีคนรักแบบประหลาด เลยไม่ค่อยจะแฮปปี้ในชีวิตคู่ ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น และไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง

FIG TREE - The Sensibility
เป็น คนเข้มแข็ง มีความตั้งมั่น ไม่ขึ้นกับใคร ไม่ชอบให้ใครต่อต้าน เป็นคนรักครอบครัว รักเด็กและสัตว์เลี้ยง มีอารมณ์ขัน มีความสามารพิเศษและฉลาด

OAK TREE - Robust nature
เป็นคนกล้าหาญ เข้าแข็ง รุนแรง ไม่ขึ้นกับใคร ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ปักหลักในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่ และเป็นนักปฏิบัติ

BIRCH TREE - The Inspiration
เป็น คนมีชีวิตชีวา ดึงดูดเพศตรงข้าม เป็นมิตร ไม่เสแสร้ง อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ชอบทำอะไรที่เกินตัว ชอบชีวิตตามธรรมชาติ รักความสงบ ไม่ค่อยมีอารมณ์รุนแรง ความทะเยอทะยานก็ไม่ค่อยมี เต็มไปด้วยจินตนาการ

OLIVE TREE - The Wiadom
เป็น คนอบอุ่น มีเมตตา เป็นคนมีเหตุมีผล มีความอดทนสูง ร่าเริง รักสงบ เป็นคนยุติธรรม ขี้สงสาร ไม่ขี้อิจฉา รักการอ่าน และเป็นเพื่อนของคนที่มีบุคลิกซับซ้อน

BEECH TREE - The Creative
เป็น คนมีรสนิยมดี มักจะเป็นพะวงเรื่องการแต่งกายและวัตถุนิยม มีพื้นฐานชีวิตและอาชีพที่ดี มัธยัสถ์ เป็นผู้นำที่ดี มีช่วงเวลาที่วิเศษสุขในชีวิตเสมอ และยังคงความฟิตของร่างกายตลอดเวลา

ที่มา bevernetwork

21 กันยายน 2552

อ่านแล้วชอบเลย

ในวันแรกที่พระเจ้าสร้างโลก พระเจ้าได้สร้างวัวขึ้นคู่หนึ่ง และบอกกับวัวว่า

' วันนี้เราได้สร้างเจ้าขึ้นในฐานะของวัว เพื่อทำงานหนักกลางทุ่งนา ท่ามกลางแสงแดดจ้าทั้งวัน แล้วเราจะให้เจ้ามีชีวิตยืนยาว 50 ปี'

วัว ย้อนกลับว่า ' ชีวิตที่ยากลำบากเช่นนี้ จะให้มีอายุยาวถึง 50 ปี น่ะหรือ ? ฮึ! เมินเสียเถอะ ขอแค่มีอายุเพียง 20 ปี ก็พอแล้วล่ะ เอาคืนไปเลย 30 ปี ถ้าได้ก็โอเค'

และพระเจ้าตอบตกลง

วันต่อมาพระเจ้าสร้าง สุนัขขึ้น และบอกกับมันว่า 'เราสร้างเจ้าขึ้นในฐานะของสุนัข หน้าที่ของเจ้าคือ นั่งอยู่ที่ประตูบ้านและเห่าเมื่อมีคนเข้ามา แล้วเราจะให้เจ้ามีอายุยืนถึง 20 ปี'

สุนัขได้ฟังก็พูดขึ้นว่า 'นั่งเฝ้าหน้าประตูบ้าน 20 ปี! ช่างเป็นชีวิตที่น่าเบื่ออะไรเช่นนี้ ขอคืนชีวิต 10 ปี ก็แล้วกัน'

พระเจ้าตอบตกลง

วัน ต่อมาพระเจ้าสร้างลิงขึ้น และบอกกับลิงว่า 'เราสร้างเจ้าขึ้นในฐานะของลิง หน้าที่ของเจ้าคือ สร้างความสนุกสนาน และใช้เล่ห์เหลี่ยมของลิงหลอกล่อคนให้หัวเราะ แล้วเราจะให้เจ้ามีอายุยืน 20 ปี'

ลิงได้ฟังจึงตอบว่า ' อะไรนะ..ทำให้คนหัวเราะ ทำหน้าลิงและเล่ห์กลต่างๆ ตั้ง 20 ปี น่ะเหรอ ? ไม่เอาด้วยหรอก ขอคืนชีวิตไป 10 ปี เหลือแค่ 10 ปี ก็แล้วกัน'

พระเจ้าตอบตกลง

วัน ต่อมาพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้น และบอกว่า 'เราสร้างเจ้าขึ้นในฐานะที่เป็นมนุษย์ หน้าที่ของเจ้าคือ กิน นอน เที่ยว เล่นสนุกสนาน โดยไม่ต้องทำงานใดๆ เราจะให้เจ้ามีชีวิต 20 ปี'

มนุษย์ ได้ฟังก็ต่อรองว่า ' ชีวิตที่สบายเช่นนี้ แล้วท่านจะให้เรามีชีวิตแค่ 20 ปี น่ะเหรอ เอาอย่างนี้ดีกว่าเราขอชีวิตที่วัวคืนชีวิตให้ท่าน 30 ปี สุนัข 10 ปี และลิง 10 ปี มาเป็นของเรา เพื่อให้เรามีอายุยืนถึง 70 ปี ตกลงไหม ?'

พระเจ้าตอบตกลง

นั่นเป็นเหตุผลว่า...

ทำไมชีวิตของเราในช่วง 20 ปีแรก จึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน กิน นอน เล่น และไม่ต้องทำอะไรมากมาย
30 ปีต่อมา ต้องทำงานหนักทั้งวัน เพื่อสร้างครอบครัว
10 ปีต่อมา เกษียณอยู่ที่บ้าน เฝ้าหน้าบ้าน และตะคอกคนที่ผ่านไปมา
10 ปีต่อมา เป็นปู่/ย่า ตา/ยาย ที่ต้องทำหน้าลิง และเล่ห์กลต่างๆ เพื่อหลอกล่อหลาน!

อ่านจบแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเป็นวัวกันต่อไปนะพี่น้อง อย่าอู้!!!!

ที่มา Forword Mail

อีกแง่มุมของความรัก

ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ นึงตลอดเวลา
เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้
และบางครั้ง ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา
โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน

บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว
มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราคิดทั้งหมด
มันคือความฝันของเราเองเพียงคนเดียว
ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่
เลือกที่จะจมกับความฝัน
มากกว่าการได้รับรู้ความจริง
การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเค้า
ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า...
เราอาจเป็นที่ 2
ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4...
และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า...
ก็ขอให้คิดไว้ว่า
ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย

แต่โปรดจำไว้เถอะว่า
หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ
พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า
...ชั้นเหนื่อยเหลือเกินแล้ว
โปรดห้ามใจเถอะ
ก่อนที่ชั้นจะอ่อนล้าไปกว่านี้...

ก็จงชอบต่อไปเถอะ
การรักใครซักคน
ไม่ต้องการความพยายาม

"การตัดใจ" ต่างหาก
ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย
ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า

"ความสุขยาม ที่คุณได้สบตาเค้า"
กับ"ความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า"
อันไหนมันหนักหนากว่ากัน

อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเค้าสายเกินไป...
อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้...
อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน
แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน

แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย
ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป
แต่ก็ยังได้พบ...

ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา
แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป...

ยิ้มให้กับโชคชะตา
ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน

คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง
คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้ม
ของเค้าไว้คนเดียว

คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง...
คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...
และร้องไห้ได้มากมาย...

คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า
ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...
ให้กลายเป็นวันที่สดใส
เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?

แค่การได้เห็นคนที่เรารัก
ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคน
ที่เค้ารักมากที่สุด
...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก
...อย่างจริงใจ

ที่มา downloadfc