27 กรกฎาคม 2552

มหา'ลัย นเรศวร

ใครไม่เคยไปก็ ลองอ่านดูได้นะครับ รับรอง เห็นภาพเลย ยาวหน่อยนะคับ Grin

- มอนอของเรา -

- มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มีชื่อเล่น ว่า มน.(NU มอ-นอ)

- เป็นมหาวิยาลัยที่ร้อนและแดดแรงมากที่สุดในสยามประเทศ(ร้อนไปได้ไง ซัมเมอร์ 43 องศาและแดดแรงขนาดมีศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์)

- เราเรียกนักศึกษาที่นี่ ว่า นิสิต

- สีประจำมหาวิทยาลัยคืิอ เทา แสด
- สีเทา หมายถึง แมลงอันอุดมสมบูรณ์
- สีแสด หมายถึง แดดอันแผดร้อน

- บัตรนิสิต เป็นบัตรที่เราไม่อยากจะให้ใครได้เห็น เพราะรูปนั้นมันนรกมาก ช่างกล้องที่ถ่ายบัตร ช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการถ่ายรูปอย่างสูงจริงๆ

- สิงที่นิสิตเคารพบูชาที่สุด คือ พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในท่าประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาทรงสุวรรณภิงคารหลั่งทักษิโณทก เราเรียกที่นี่ ว่า ลานสมเด็จ

- ลานสมเด็จนี่เองจะมีช่วงคึกคักมากๆที่สุดในรอบปี คือ สอบมิดเทอม และช่วงสอบไฟนอลเท่านั้น สิ่งที่นิสิตมักบน สมเด็จเสมอคือ
- วิ่งรอบลานสมเด็จ(เมื่อก่อนเล็กกว่านี้ ปัจจุบันขยายกว้างขึ้น)
- ถูลานสมเด็จ (อันนี้สมเด็จท่านอนุโลมให้เอาเพื่อนมาช่วยถูได้)
- ดอกไม้สีสันสวยงามต่างๆ
- ตุ๊กตาไม้ที่เป็นช้าง ม้า และไก่ชน (เท่านั้น)

- ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกเสลา ซึ่งเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทย์มากๆ บางคนเรียนมา สี่ปียังไม่เคยเห็นดอกเสลาซะที

- หน้ามหาวิทยาลัย ยังทำนา และเลี้ยงเป็ดอยู่ ถนน หน้ามหาวิทยาลัย บางทีชาวบ้านก็เอาข้าวเปลือกมาตากซะงั้น

- นิสิตมน.เกือบทุกคนต้องรู้จักเจ๊เสริฐ(กะเทยสมรภูมิที่ขายกับข้าวตามสั่ง เคยเห็นกับตาเลยว่าแกกระดกเบียร์ ตอนทำกับข้าว สงสัยจะบิ้วอารมณ์)

- มน.มีชาไข่มุกของป้าที่อร่อยสุดๆของแคว้นแดนไทย ซึ่งในกรุงเทพยังหากินได้อร่อยไม่เท่า

- ช่วงใกล้รับปริญญาคนสวนของมหาลัยจะมีอิทธิปาฏิหาริย์ สามารถเนรมิตพื้นที่ และดอกไม้ให้สวยได้ภายใน3-4วัน

- และช่วงรับปริญญานี่เอง เป็นช่วงที่น้องหมาสุดรักประจำคณะต้องเก็บตัว

- คณะเราต้องเรียกพี่ยามเท่านั้น ห้ามเรียกลุงยาม แกบอกว่าแก่ไป พี่ก็พอ

- พาหนะที่ใช้มากที่สุด คือ รถ มอเตอร์ไซต์ และรถวิ่งรอบมอ เมื่อก่อนเราเรียกว่ารถส้ม (รอบละบาทเอง ทันนั่งอยู่ปีเดียว) ปัจจุบันมันเป็นรถไฟฟ้าไปซะแล้ว (คันสีขาวเหมือนรถกอล์ฟ)

- ใครขับรถรอบมอตอนเที่ยงๆถึงบ่าย สาม สิ่งที่คุณได้รับอย่างไม่น่าเชื่อ คือ สีผิวเปลี่ยนได้ทันตาเห็น และคุณจะกลายเป็นลูกครึ่งผมแดง ทั้งที่พ่อแม่คุณเป็นคนไทย

- ตอนที่ยังไม่เป็นหวยบนดิน นิสิตสามารถแอบซื้อหวยได้กับป้าแม่บ้าน

- สะพานลอยหน้ามหาลัยมีไว้ให้มอเตอร์ไซต์หลบฝน และนิสิตไว้หลบแดดตอนรอรถเท่านั้นไม่ได้มีไว้ใช้ข้าม (สารภาพว่า สี่ปี เคยข้ามสะพานนี้อยู่ 2 ครั้งเองครับ)

- มนุษย์เพศชายในคณะมนุษย์ ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่น่าสงสัยว่าเป็นมนุษย์กึ่งชาย

- มน.มีการแข่งขันประกวดดนตรี เราเรียกมันว่า NU VOICE

- น้องปีหนึ่งจะต้องแต่งตัวถูกระเบียบ น้องผู้หญิงใส่เสื้อนิสิตที่เชยที่สุด คือเสื้อไม่มีสาบ ติดกระดุมคอ กระโปรงคลุมทรงเอคลุมเข่าสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ ห้ามมีลวดลาย น้องผู้ชายใส่เชิตขาวแขนยาว ผูกไทด์สีเทา กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง

- กระดุมคอและเนคไทด์ของน้องปีหนึ่ง จะได้รับการปลดให้โดยพี่รหัส เมื่อปิดห้องเชียร์เรียบร้อยแล้ว

- ก่อนจะมีการประกาศห้ามรับน้องรุนแรง วิดยามีประเพณีชิงธง(ในโคลน) ด้านหน้าตึกแมท เข้าใจว่า นิสิตรหัส 47 จะเป็นรุ่นสุดท้าย (ที่ได้ลงโคลน)

- ชุดพิธีการของมน.หมายถึง ชุดที่ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่ง คือการแต่งกายถูกระเบียบ แต่เปลี่ยนจากกระโปรงและกางเกงสีดำ เป็นกระโปรงและกางเกงสีเทาแทน

- ช่วงเทอมหนึ่ง น้องปีหนึ่งทุกคนจะได้รับการบอกกล่าวให้ไหว้รุ่นพี่ และอาจารย์ที่เดินผ่าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่เมื่อรุ่นพี่หรืออาจารย์เดินผ่านหรือขับรถ ผ่านจะมีน้องๆซึ่งแต่งตัวถูกระเบียบไหว้และร้องทักว่า "พี่คะ/ครับ สวัสดีค่ะ/ครับ"

- ช่วงก่อนเปิดเทอม 1 จะมีการจัดค่ายให้น้องๆ ปี 1 มาอยู่รวมกันทำความรู้จักกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เรียกว่า "Begining Camp" โดยน้องปีหนึ่งจะได้รับการบายศรีสู่ขวัญ และผูกข้อมือ

- ค่ายปรับฐานของคณะวิดยาฯ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ต้องไปค้างคืนที่ศาลาสวดศพวัดคุ้งวารี (รุ่นผมเองแหละครับพี่น้อง - sc24) ตอนถ่ายรูปจะมีเมรุเผาศพติดมาด้วยทุกรูปเลยครับ

- ครุยมน. เป็นครุยผ้าโปร่งสีขาว มีแถบสีเทา-แสด อันเป็นสีประจำ มหาวิทยาลัย มองเผินๆคล้ายกับชุดพระยาแรกนาขวัญ (อันนี้เพื่อนชอบแซว) ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ ในช่วงธ.ค.- ม.ค.

- ช่วงรับปริญญาที่มน. เป็นช่วงที่คึกคัก และทำให้การจราจรติดขัดที่สุด

- ชื่อเดิมของ มน.คือ "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขต พิษณุโลก"

- ที่นั่งเล่น ออกกำลังกายในมอนอ มี 2 แห่งคือที่โอเอซิสหรือที่เรียกอีกชื่อว่า สวนเทเลทับบี้ ใครนึกไม่ออกจินตนาการถึงสนามหญ้าที่พวกเทเลทับบี้ชอบออกมาเต้น กับอีกแห่ง คือ อ่างเก็บน้ำ ที่นี่มักมีคนไปให้อาหารปลาด้วย

- ไอติมทอดข้างมอร้าน "กิ่งแก้ว" (เอ๊ะ หรือเปล่า - -*) ป้าคนขายเป็นคนขี้ลืมมากๆ ถ้าไม่จดวให้ป้าแก ป้าแกจะลืมทำ หรือถ้าไม่จด เวลาคิดเงิน ป้าแกจะถามว่า สั่งไรบ้าง เดินไปก้าวนึง ก็จะถามคำถามเดิม เดินอีกก้าว ก็ถามใหม่จนกว่าจะถึงเก๊ะเก็บตังค์ -*-

- ไก่ทอดร้าน กะต๊าก (หรือกะโต๊กนี่แหละ) อร่อยม้ากๆๆ อร่อยกว่า KFC อีก !!!

- มีโลโก้ประจำม.ก็คือ ยุงที่มีมือซ้ายกางร่ม มือขวาครีมกันแดด (ยุงเยอะมากกกกกกก แดดแรงมั่ก )

- รถไฟฟ้าที่วิ่งรอบมหาวิทยาลัยจะเรียกสั้นๆว่า " โดเรม่อน" หรือ "เตาอบเคลื่อนที่ "

- นิสิตหอหญิง(เก่า) ส่วนใหญ่จะรู้จัก " ยามจอย "(ดุมาก)

- ลานสมเด็จจะคึกคักช่วงก่อนสอบ และจะมีควันธูปตลบอบอวนอยู่ตลอดเวลา

- เด็กปี 1 ผู้ญ จะต้องโดน "รองเท้าคัดชูกัด" แทบจะทุกคน

- แทบจะทุกคนจะต้องได้ไปเรียนที่ตึก MD

- ตลาดนัดวันอังคาร จะเป็น center point ของเด็กมน.จะมีขายทุกสิ่งอย่าง ผักสด, เสื้อผ้า ,สุนัข ฯลฯ และเป็นศูนย์รวมแฟชั่น

- ที่นี่จะขับรถเหมือนเวียดนาม ก็คือ ไม่มีไฟเขียวไฟแดง นึกจะเลี้ยงก็เลี้ยว นึกจะปาดก็ปาด ไฟเลี้ยวไม่เปิด

- ที่นี่จะมีอยู่ 2 ฤดู ก็คือ ร้อน กับ ร้อนอิ๊บอ๋าย.. - -*

- วิศวะชอบไปกินข้าวที่โภชนาคาร 2 เวลาไปกินที่โภฯ นิ จะเจอพวกนี้เยอะมากกก..

- ทางหลังม. ตรงทางแยก ถนนตรงนั้นจะไม่สามารถซ่อมได้ และ สามารถเลี้ยงปลาได้

- ประตูทางออกตรงคลองหนองเหล็ก ส่วนใหญ่เค้าจะเรียกว่า " ป่าดงดิบ "

- สวนเทเลทับบี้มีไว้ให้ลูกหมาวิ่งเล่น

- ที่ฟิตเนสจะมีพวก กึ่งชายกึ่งหญิง ตัวล่ำขาวๆ มักจะเล่นอยู่ประจำ

- อ่างเก็บน้ำมีไววิ่งออกกำลังกาย และ ให้อาหารปลา

- รถไฟฟ้า เปิดประทุน ช่วงเย็น ถ้าคุณจะนั่ง คุณต้องไปขึ้นที่ตรงเก็บรถ

- 7-11 ตรงโภฯ 2 จะมีไว้ให้นิสิตหญิงใช้เท่านั้น!!

- อ.ผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดของมหาวิทยาลัย อยู่ที่คณะเภสัช หน้าตาดีเป็นจำนวนมาก ด้วย จนไม่น่าเชื่อว่า เป็นศูนย์รวม อ.หน้าตาดีอะไรได้ขนาดนี้ แต่80เปอร์เซนต์ของอาจารย์ที่ว่ามา เป็น.....

- มีสวนเทเลทับบี้ อยู่ใกล้หอสมุด

- ตรงสวนเทเลทับบี้ เด็ก มน.หลายคนอาจไม่ทราบมีการปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดของทั้ง76จังหวัด ปลูกเรียงกัน เป็นแผนที่ประเทศไทย

- บริเวณตลาดหลังมอ เรียกอีกอย่างว่า ตลาดปอยเปต เพราะสภาพไม่ต่างอะไรกับตลาดชายแดน (ล่าสุดได้ข่าวว่าพัฒนาแล้ว ถนนลาดยางไปแล้วเรียบร้อย ก่อนมีนโยบายให้นิสิตปีหนึ่ง ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในมอ)

- แยกวัดใจ ตรงหน้าคณะมนุษย์ (บริเวณที่ตั้งเพชรคณะมนุษย์)

- ลานสมเด็จ โหดร้ายมากๆ ถ้ารุ่นพี่ให้ไปยืนร้องเพลงคณะตอนเที่ยงตรง

- ก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าล้อม มามอนอ แล้วไม่ได้กิน เสมือนว่ามาไม่ถึง (ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่หน้าตึกแมทคับ ตอนที่อยู่โภฯ 1 มีคนเข้าแถวรอซื้อเหมือนแจกฟรี)

- เด็กรุ่นรหัส43 เป็นรุ่นสุดท้าย ที่เกรดไม่มีประจุ (บีบวก ซีบวก ดีบวก)

- รหัส 43 นอกจากเป็นรุ่นสุดท้ายที่เกรดไม่มีประจุ ยังเป็นรุ่นสุดท้ายที่เวลาตกจะได้ "E" แทน "F" ในรุ่นต่อๆ มา

- รุ่นรหัส43 ยังเป็นรุ่นสุดท้ายด้วย ที่รู้จักการต่อคิวลงทะเบียน หลังจากนั้นลงผ่านเนทหมด

- ร้านข้าวต้มอารมณ์ดี ร้านข้าวต้มหน้ามอ เจ้าอร่อย เจ้าของร้านใจดีด้วย (แต่รายการอาหารไม่มีราคาบอกนะ ต้องสังเกตุจานเอา)

- รพ.มหาลัย ก่อนเปิดเป็นรพ.ในปัจจุบัน เริ่มแรก เปิดเป็นหอหญิงด้วย นิสิตรหัส 45 เป็นรุ่นแรกที่ได้เข้าไปประเดิมนอน ตอนเข้าค่ายมอ

- คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดหลักสูตร6ปี
รพ. มหาลัยไม่เคยมีห้องเต็ม

- สภานิสิตมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นสภาแห่งแรกที่จดโดเมนเนมเป็นของตัวเองในชื่อ sapanisit.com

- เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียว ที่คณะเภสัชศาสตร์เป็นคณะบุกเบิกในการถ่ายภาพและที่คณะเภสัชฯ แห่งนี้ มีห้องมืดล่างอัดภาพขาวดำเป็นของตัวเอง

- ในอดีต ไม่มีหอพักชายภายในตัวมหาวิทยาลัย มีแต่หอพักหญิง

- พระรูปสมเด็จพระนเรศวร ทรงคนโฑด้วยพระหัตถ์คนละข้างกับพระรูปที่อยู่ที่ในตัวเมือง

- เป็นมหาวิทยาลัยที่มีตราสัญญลักษณ์สองแบบ คือองค์สมเด็จไว้สำหรับติดในที่สูง และช้างเจ้าพระยาไชยานุภาพไว้ติดในที่ต่ำ (เช่นหัวเข็มขัด)

- วิดวะมี ร้านอาหารข้างใต้ แต่ไปกินโภ 2 เพราะใกล้ กว่าโภฯ 2

- ตลาดนัด เป็นที่ทำไว้สำหรับจอดรถ ทั้งมหาลัยแล้วให้ นั่งรถไฟฟ้ามาเรียน แต่โดนประท้วง

- ร้านข้าวใต้ตึก EN อาหารที่ฮิต คือ ข้าวไข่เจียว

- ร้านถ่ายเอกสาร ตาตู้ มี ชีท ของ ทุึกคณะทุกวิชา ที่เรียนที่ตึก EN

- อาจารย์ วิดวะ สามารถแจ้งข่าวการสอน ได้ที่ร้านตาตู้

- เมื่อก่อน รุ่นพี่วิดวะพาน้องไปลองของที่วัดจูงนาง

- ตึกวิดวะก่อนสอบ มีแต่นักศึกษาแพทย์ เอากระดูกมาท่อง

- สมัยก่อนลานสมเด็จ ยังไม่กว้าง แก้บนด้วยวิ่งรอบมอ

- คนที่แก้บนด้วยการถูลานสมเด็จคนแรก เป็นเด็กคณะวิดวะ

- ช่วงก่อนสอบและหลังสอบ ผ้าถูพื้นลานสมเด็จไม่เคยแห้ง

- เด็กวิดวะ ถ้าไม่เข้าครอบครูประจำปี จะเรียนไม่จบ

- คณะวิดวะใช่จะมีชายแท้ หญิงแท้มาเรียน เคยมีกระเทย มาเรียนแล้วเรียนไม่ไหวลาออกไปแปลงเพศ

- ปัจจุบัน เจ๊เสริฐ ขายร้านอาหารตามสั่งทิ้งไปแล้ว

- ร้านเช่าการ์ตูนไทเกอร์ ตอนนี้ไทเกอร์เข้าประถมแล้ว

- ประตูหน้ามอ ใกล้ๆ กับศูนย์วิจัยจะเปิดตอนรับปริญญา

- ก่อนที่จะมีลูกระนาด เคยมี เด็กวิดวะเคยแข่ง มอไซค์รอบมอด้วยความเร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

- มีบางคนเรียนจบแล้วยังไม่รู้ว่า มีประตูออกจากมออีก ตรงคณะวิทยาศาสตร์

20 กรกฎาคม 2552

ทายนิสัย...จากการผายลม

คนใจเย็น...คนที่กลั้นผายลมจนถึงจุดระเบิด
คนไม่จริงใจ...คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้าง ๆ
คนงก...คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง
คนขี้โอ่...คนที่ผายลมเสียงดังสนั่นแล้วยืนหัวเราะชอบใจ
คนโชคร้าย...คนที่พยายามผายลมขณะเอามือตบโต๊ะไปด้วย แต่พลาดจังหวะ
นักวิทยาศาสตร์...คนที่สามารถวิเคราะห์ได้หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่า
อาหารก่อนหน้านั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์
ซาดิสต์...คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดหัวคู่นอนให้เข้าไปดม
คนเจ้าเล่ห์...คนที่ผายลมพร้อมกับไอกระแอมเบาๆ
คนสุภาพ...คนที่กล่าวขอโทษก่อนและหลังการผายลมแม้จะอยู่เพียงคนเดียว
ผู้ดี...คนที่กลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอืด เพื่อเก็บไว้กลับไปผายลมที่บ้าน
คนมั่นคง...คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และยาวนาน
คนอำมหิต...คนที่ผายลมไร้เสียง แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
คนดีแต่พูด...คนที่ผายลมดังปัง แต่ไร้กลิ่น
คนหลายใจ...คนที่ผายลม ปัสสาวะ และอุจจาระในเวลาเดียวกัน
แพทย์...คนที่ล้างมือก่อยผายลม
คนใจบุญ...คนที่ยืนผายลมเหนือลม ให้ทุกคนรับอานิสงค์โดยทั่วกัน

ที่มา downloadfc

ทรานฟอเมอร์ แบบฮาๆ ขำๆ




ล่ะตัวไหนจะกล้ามาหน้าพี่แกโหดสะ



ก้อแปลงเปนรถบ้านเรามันลำบาก - -a



ถึงจะหนีไปเปนคันอื่น... - -"



ก้อ.....

ลำบากอยู่ดี.... - -!!



ไหนจะพวกโจรซุ่มโจมตีอีก....



และไม่ใช่แค่รถนะที่เดือดร้อนน่ะ



ที่สำคัญ จะแปลงร่างทั้งที....



จบแค่นี้....


Credit:จากคุณ littlegun แห่งเวบ pantip http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8016156/A8016156.html

โชคดีนะนั่น

หลังเลิกงาน ผู้จัดการหนุ่มพาเลขาสาวไปดินเนอร์สองต่อสอง เรื่องมันยืดยาวไปกันใหญ่เมื่อหลังอาหารพวกเขาไปจบลงบนเตียงในอพาร์ทเมนท์ ของฝ่ายหญิง หลังจากนั้นผู้จัดการหนุ่มถึงนึกออกว่ายังมีเมียเป็นตัวเป็นตนรออยู่ที่บ้าน เขารับขับรถกลับบ้านก่อนจะพบว่ามีรอยฟันกัดอันเนื่องมาจากฉากบนเตียงที่เร่า ร้อนที่เพิ่งจะผ่านมาหยกๆ
เขาสติแตก พยายามหาวิธีโกหกเมียที่เข้าท่าเข้าทาง จนเมื่อเขาเปิดประตูเข้าบ้านแล้วเจ้าตูบที่บ้านกระโดดเข้าใส่เขาอย่างดีอก ดีใจ นั่นแหละเขาถึงคิดออก
“ที่รัก” เขายิ้มหวานนำไปก่อน “ดูซิไอ้ตูบมันงับคอผมเข้าไปทีนึงแน่ะ ไม่รู้ไปมันเขี้ยวมาจากไหน” เขาพูดพลางเปิดคอปกเสื้อให้ดู
“คุณยังโชคดีนะนั่น” เมียว่า พลางแบะอกเสื้อให้ดู “มันกัดนมชั้นเข้าไปหลายทีเชียวแหละ”

ที่มา downloadfc

โลกาภิวัตน์

เพื่อนผมไปสัมภาษณ์เข้าเรียน MBA กรรมการท่านหนึ่งถามว่า
“ไหนลองยกตัวอย่างของโลกาภิวัตน์ให้ฟังซักเรื่องซิ?”
“เจ้าหญิงไดอาน่าครับ” เพื่อนผมตอบฉับไว
“มันโลกาภิวัตน์ยังไง” กรรมการสงสัย
“เจ้า หญิงอังกฤษ กับเพื่อนชายชาวอียิปต์ ประสบอุบัติเหตุในอุโมงค์ฝรั่งเศส ขณะที่นั่งรถเยอรมันที่ใช้เครื่องยนต์จากฮอลแลนด์โดยมีคนขับชาวเบลเยี่ยมที่ กำลังมึนได้ที่จากสก็อตวิสกี้ อันเนื่องมากจากการตามล่าของช่างภาพอิตาเลียน และเข้ารับการรักษาโดยนายแพทย์ชาวอเมริกันที่ใช้ยาที่ผลิตจากบราซิล และตอนนี้ก็ขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้วครับ!”

ที่มา downloadfc